ในยุคที่เทคโนโลยีกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน การดำเนินชีวิตนั้นสะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิม และเทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง แต่กลับพัฒนาและเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในทุก ๆ ปี จะเห็นได้ชัดว่ามีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ถูกนำเสนอต่อสังคมเสมอ
ดังนั้นเพื่อเป็นการดึงศักยภาพของเทคโนโลยีออกมาใช้ให้ได้มากที่สุด จึงควรมีการพัฒนาต่อยอดอยู่ตลอดเวลา ซึ่ง Smart Grid ก็เป็นหนึ่งในตัวอย่างของการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นปัจจัยหลักในการพัฒนาระบบไฟฟ้า
Smart Grid คืออะไร?
Smart Grid คือ ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ ที่มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานกับระบบไฟฟ้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบไฟฟ้า โดยประเทศไทยได้มีการวางแผนระยะยาว 20 ปี ตั้งแต่ 2558 – 2579 โดยการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่ร่วมดำเนินงานตามแผนแม่บท ดังนี้
1. Smart Meter
โบกมือลามิเตอร์จานหมุนแบบเก่า แล้วเตรียมตัวพบกับ Smart Meter ที่จะช่วยตรวจสอบข้อมูลการใช้ไฟฟ้าตลอดเวลา ทำให้การใช้ไฟในแต่ละวันได้รับการวางแผนที่ดียิ่งขึ้น ป้องกันเหตุการณ์ใช้ไฟเกินจนค่าไฟพุ่งสูงแบบไม่รู้ตัว อีกทั้งในกรณีที่ไฟดับ Smart Meter ก็จะช่วยอำนวยความสะดวกในการประสานงานาได้ดียิ่งขึ้น
ศึกษาเกี่ยวกับ Smart Meter เพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก!
2. Micro-Grid
Micro-Grid คือ ระบบไฟฟ้าแบบโครงข่ายไฟฟ้าขนาดเล็กมาก ที่ช่วยให้สถานที่ที่อยู่ห่างไกลจากแหล่งกำเนิดไฟสามารถยังคงใช้ไฟฟ้าต่อไปได้ในกรณีที่ไฟฟ้าขัดข้อง โดยดึงเอาพลังงานไฟฟ้าจากที่เก็บสะสมไว้ เช่น จากแบตเตอรี่ โซล่าฟาร์ม หรือ เครื่องกำเนิดไฟฟ้า เป็นต้น
3. EV Station
EV Station คือ สถานีอัดประจุไฟฟ้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าทุกคนบนท้องถนน ลดความกังวลว่าจะไม่มีไฟฟ้าให้ชาร์จระหว่างเดินทางไกล ด้วยสถานีอัดประจุอย่าง PEA Volta
4. Power Pack
การวิจัย Power Pack คือ การศึกษาเกี่ยวกับการกักเก็บพลังงานจากไฟฟ้าเป็นรูปแบบอื่น ๆ เช่น แบตเตอรี่
ดูเหมือนว่าในอนาคตอันใกล้ ผู้ใช้ไฟทุกท่านจะได้สัมผัสกับประสบการณ์อีกขั้นของการใช้ไฟฟ้ากันแล้วนะครับ
เซฟไทยสนับสนุนการใช้ไฟฟ้าอย่างปลอดภัยและประหยัด
ที่มา : สำนักข่าวไทย TNAMCOT
ที่มา : ศูนย์ข่าวพลังงาน
ที่มา : สำนักงานข่าวไทย TNAMCOT
ที่มา : การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)
ที่มา : Energy Impowerment