ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าประเทศไทยมีขนส่งสาธารณะต่าง ๆ มากมาย เช่น รถเมล์ รถตู้ รถแท็กซี่ รถมอเตอร์ไซ หรือรถไฟฟ้า แต่ผู้คนบางส่วนก็มองว่าการมีรถส่วนตัวนั้นสะดวกกว่าเป็นไหน ไม่ว่าจะไปที่ไหน ไปเมื่อไหร่ ก็สะดวกสบายกว่า เพราะบางสถานที่รถสาธารณะก็ไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้
แต่สิ่งหนึ่งที่คนที่อยากมีรถเป็นของตัวเองนั้นต้องเจอคือภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าซ่อมบำรุง ค่าผ่อนรถ ค่าประกัน และที่ขาดไม่ได้คือค่าน้ำมันนั่นเอง เรียกได้ว่า ไม่ว่ารถของเพื่อน ๆ จะมีประสิทธิภาพแค่ไหน เครื่องยนต์แรงแค่ไหน วิ่งได้เร็วสุดแค่ไหน ทุกอย่างก็จะไม่เกิดขึ้น หากไม่มีน้ำมันเชื้อเพลิง
ปัญหาของการใช้รถยนต์ด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง
‘แล้วปัญหาอยู่ที่ตรงไหนล่ะ?’ เพื่อน ๆ หลายคนอาจสงสัย เพราะการหาปั๊มน้ำมันสักที่ในระแวกใกล้ ๆ ไม่ใช่เรื่องยากเลย แทบทั้งสองข้างทางของถนนก็มีปั๊มน้ำมันอยู่ทุกหนทุกแห่ง
เซฟไทยคงต้องขอตอบว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่จำนวนของปั๊ม แต่อยู่ที่จำนวนของเม็ดเงินที่ต้องจ่ายในแต่ละครั้งมากกว่าครับ วันนี้น้ำมันอาจจะราคาลงจนต้องรีบไปเติมตุนไว้ แต่ในวันถัดมาอาจขึ้นสูงจนไม่มีคนไปเติม หรืออาจจะต้องกัดฟันเติมในราคาที่สูงลิ่วเพราะน้ำมันในถังใกล้หมดเต็มที
ไม่ใช่แค่เรื่องราคาเท่านั้น แต่เพราะน้ำมันเป็นพลังงานในรูปแบบที่ใช้แล้วหมดไป แปลว่าทุกวันนี้ก็เหมือนเป็นการนับถอยหลังของผู้ใช้รถยนต์ทุกคนว่าจะใช้น้ำมันได้อีกนานแค่ไหน ซึ่งจากการคาดคะเนของ https://www.worldometers.info/oil/ แสดงให้เห็นว่าเราจะสามารถใช้น้ำมันได้อีก 47 ปีเท่านั้น
ดูเหมือนจะเป็นตัวเลขที่นานอยู่ใช่ไหมครับ เทียบได้กับครึ่งชีวิตของคน แต่เพื่อน ๆ อย่าลืมนะครับว่ายิ่งนับถอยหลังไปเท่าไหร่น้ำมันจะยิ่งเหลือน้อยเท่านั้น และเมื่อถึงจุดที่ Demand และ Supply ไม่สมดุล ราคาน้ำมันอาจผันผวนขึ้นสูงจนน่ากลัวเลยก็ได้
ทางเลือกใหม่ของผู้ใช้รถยนต์
ตอนนี้จึงเป็นช่วงโอกาสที่เหมาะสำหรับใครที่อยากลองก้าวออกจากการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และหันมาลองใช้พลังงานไฟฟ้าแทน ถึงแม้ว่ากระแสของยานยนต์ไฟฟ้าอาจยังไม่แรงมากจนกลายเป็นหัวข้อสนทนาในวงกว้าง แต่หากเพื่อน ๆ ลองสังเกตจะเห็นได้ว่าเริ่มมีการใช้ยานยนต์ไฟฟ้ากันบนท้องถนน และเวลาแวะปั๊มที่ต่าง ๆ ก็จะเห็นได้ว่าเริ่มมีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าตั้งขึ้นมาประปราย ซึ่งนี่ก็เป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าสังคมของเรากำลังจะก้าวเข้าสู่วิถีชีวิตแบบใหม่ที่เทคโนโลยีและไฟฟ้าจะเข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น
PUPA PLUG เต้ารับสำหรับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า
หากเพื่อน ๆ คนไหนสนใจที่จะลองเข้าวงการยานยนต์ไฟฟ้าแต่กลัวไม่มีสถานีชาร์จแล้วล่ะก็ ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะ PUPAPLUG by PEA เป็นเต้ารับสำหรับธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อทั้งผู้ประกอบการที่มองหาช่องทางในการสร้างเม็ดเงินได้ตลอดเวลาและผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าทุกคน
ด้วยการใช้งานผ่าน Web Application ที่สามารถดูรายละเอียดต่าง ๆ ได้มากมาย เช่น ข้อมูลการชาร์จในปัจจุบัน การกำหนดค่าบริการ การชำระเงินผ่านระบบดิจิทัล หรือการตั้งเวลาชาร์จ เพียงแค่สแกน QR Code ง่าย ๆ
นอกจากนี้เซฟไทยขอกระซิบว่าทาง PUPAPLUG กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ตัวใหม่อย่าง PUPA PLUS และ PUPA PUMP อีกด้วย เให้ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า
อ่านมาถึงตรงนี้ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.pupaplus.com/
เพราะอนาคตที่ยานยนต์ไฟฟ้าจะมีอยู่เต็มทั่วท้องถนนอยู่ไม่ไกลแล้วนะครับ
ด้วยความปรารถนาดีจาก เซฟไทย
ที่มา : PUPAPLUS
ที่มา : PUPAPLUG
ที่มา : EV Plaza
ที่มา : PUPAPLUG
ที่มา : Worldometer