• 70 Views
  • Oct 11, 2024
  • 3 mins read

รู้ไว้ใช่ว่า ‘ล้างแอร์’ 

เนื่องจากสภาพอากาศประเทศไทยมีอยู่หลัก ๆ เพียง 3 ฤดู คือ ร้อน! ร้อนมาก! และร้อนสุด ๆ! แม้แต่ช่วงที่มีฝนตก อากาศก็ยังอบอ้าวอยู่ดี ‘แอร์’ จึงนับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สำคัญมากต่อชีวิตประจำวันของพวกเรา วันไหนไม่เปิดแอร์ จะรู้สึกราวกับจะหลอมละลายกลายเป็นน้ำเลยทีเดียว และเมื่อใช้แอร์บ่อย ก็ควรมีความรู้ในการดูแลรักษาแอร์ที่ดีควบคู่กันไป เซฟไทยนำข้อมูลเกี่ยวกับการ ‘ล้างแอร์’ ที่จะช่วยคงประสิทธิภาพและช่วยยืดอายุการใช้งานของแอร์มาฝากกัน ต้องล้างแอร์เมื่อไหร่? ล้างบ่อยแค่ไหน? ทำเองได้หรือเปล่า? ไปหาคำตอบกันเลย!

ทำไมต้องล้างแอร์?

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า การล้างแอร์สำคัญยังไง ทุกครั้งที่เราเปิดแอร์ กระบวนการแลกเปลี่ยนและหมุนเวียนอากาศระหว่างพื้นที่ภายในบ้านและนอกบ้านจะเกิดขึ้น ทำให้ละอองฝุ่นและอนุภาคเล็ก ๆ ในอากาศที่อาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่าถูกนำเข้าไปในตัวเครื่องด้วย ดังนั้น หากเราไม่ทำความสะอาดชิ้นส่วนของแอร์ที่สะสมฝุ่น เช่น แผ่นกรองฝุ่น คอยล์ร้อน และคอยล์เย็น ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของแอร์ถดถอย และตามมาด้วยปัญหาดังต่อไปนี้

 

1.กลายเป็นที่สะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของระบบทางเดินหายใจได้ในระยะยาว

2.อายุการใช้งานสั้นลง เนื่องจากสิ่งสกปรกที่เข้าไปอุดตัน ทำให้แอร์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ

3.ตัวเครื่องทำงานผิดปกติ มีปัญหาจุกจิกตามมา เช่น มีน้ำหยด มีน้ำแข็งเกาะตามชิ้นส่วนต่าง ๆ ของเครื่อง

4.กินไฟ เนื่องจากฝุ่นที่เข้าไปเกาะ ทำให้ตัวเครื่องต้องทำงานหนักขึ้น

 

เพราะฉะนั้น จึงควรเฝ้าสังเกตหากแอร์มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น  แอร์ไม่เย็น เริ่มมีกลิ่นแปลก ๆ มีน้ำหยด หรือส่งเสียงดัง เพราะเหล่านี้อาจเป็นสิ่งที่กำลังบอกบอกให้รู้ว่า “ถึงเวลาล้างแอร์แล้ว!”         

                                                                                                                                                                                                                                                                          

ควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน?

ปัจจัยที่กำหนดว่าเราควรล้างแอร์บ่อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้แอร์บ่อยหรือเปล่า ใช้แอร์ในลักษณะใด และแอร์ติดตั้งอยู่บริเวณไหน 

 

โดยทั่วไปแล้ว ควรจะล้างแอร์ปีละ 2 ครั้ง หรือทุก ๆ 6 เดือน เพื่อป้องกันปัญหาที่กล่าวไปข้างต้น แต่หากใครใช้แอร์หนักมาก หรือติดตั้งแอร์ในบริเวณที่มีสิ่งที่ก่อให้เกิดการอุดตันได้ง่าย เช่น ถ้าบ้านใครเลี้ยงสัตว์หลายตัว ก็มีแนวโน้มที่ขนสัตว์จะเข้าไปติดอยู่ตามแผ่นตัวกรอง หรืออยู่ในบริเวณที่มีฝุ่นเยอะ จนแอร์ไม่สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ก็ควรพิจารณาล้างแอร์ให้ถี่ขึ้น โดยอาจเปลี่ยนมาล้างแอร์ทุก  3 เดือนแทน

ล้างแอร์เองได้ไหม?

สำหรับใครที่ไม่สะดวกจ้างช่างมาล้างแอร์ที่บ้านบ่อย ๆ ก็ไม่ต้องกังวลใจไป เพราะการล้างแอร์ให้สะอาดหมดจดนั้นง่ายกว่าที่คิด ทำด้วยตัวเองก็ได้! แค่ต้องระมัดระวังเรื่องความปลอดภัยมากขึ้นสักหน่อย

 

1.เริ่มจากการเคลียร์บริเวณที่จะล้างแอร์ โดยการจัดเก็บของให้เข้าที่ และนำผ้าใบล้างแอร์มาคลุมเฟอร์นิเจอร์และของใช้ในบริเวณนั้นอีกทีหนึ่ง เพื่อป้องกันน้ำรั่วซึมจากแอร์

2.ปิดเบรกเกอร์ก่อนการล้างแอร์ เพื่อป้องกันอันตรายจากไฟดูด

3.ถอดแผ่นกรองอากาศออก แล้วใช้เครื่องดูดฝุ่น หรือแปรงสีฟันกำจัดฝุ่นออกจากตัวกรอง คอยล์เย็น พัดลม และท่อระบายน้ำแอร์

4.นำแผ่นกรองที่ถอดออกมาไปล้างในน้ำที่ผสมด้วยสบู่อ่อน ๆ 10 – 15 นาที จากนั้นเช็ดให้แห้งจึงนำไปประกอบเข้ากับตัวเครื่อง

5.ใช้ผลิตภัณฑ์โฟมทำความสะอาดแอร์ในการทำความสะอาดคอยล์เย็น หรือหากไม่ได้มีฝุ่นบริเวณนั้นมาก จะใช้น้ำผสมสบู่อ่อน ๆ ก็ได้

6.ตรวจสอบความเรียบร้อย โดยการใช้ไม้ปัดฝุ่นและผ้าชุบน้ำทำความสะอาดแอร์ให้หมดจดทั้งภายในและภายนอกเครื่อง

 

เพียงเท่านี้แอร์ก็จะพร้อมกลับมาให้ความเย็นฉ่ำแบบเต็มประสิทธิภาพตามเดิม และมีอายุการใช้งานยาวนาน แถมแอร์ที่สะอาดยังดีต่อสุขอนามัยของคนในบ้านอีกด้วย

 

อ้างอิงจาก : 

Carrier

Kaidee Property

Lg

Q-Chang