เหตุการณ์สมมติ
นักเรียน เอ นำคอมพิวเตอร์พกพามาที่โรงเรียน เช่นเดียวกับ นักเรียน บี และ ซี ทั้งสามจึงตัดสินใจใช้ปลั๊กพ่วงเพื่อที่จะสามารถใช้งานได้พร้อม ๆ กัน ผลปรากฏว่านักเรียนทั้งสามได้รับอันตรายจากการใช้ไฟฟ้า
เพื่อน ๆ รู้ไหมว่านอกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านแล้ว สถานศึกษาอย่างโรงเรียนก็เป็นอีกหนึ่งที่ที่รายล้อมไปด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้ามากมาย
หากใช้งานอย่างไม่ระมัดระวังก็อาจก่อให้เกิดอันตรายตามมาได้
ในบทความนี้เซฟไทยจึงขอพาเพื่อน ๆ ไปรู้จักกับเครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงเรียนที่ควรระวัง และวิธีรับมือ
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ควรระวัง
1. อุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์
โรงเรียนไหนที่มีห้องวิทยาศาสตร์เพื่อทำการทดลองแยกออกมาก็ควรระวัง เพราะในหนึ่งสายชั้นไม่ได้มีห้องเรียนแค่เพียงห้องเดียว ทำให้มีการใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลา ถึงแม้นักเรียนบางคนอาจจะระมัดระวังแค่ไหน แต่การใช้งานที่ถูกหมุนเปลี่ยนตลอดเวลาทำให้อาจมีการใช้งานที่ไม่เหมาะสมจนทำให้เกิดอันตรายได้ ทำให้ควรระวังในทุก ๆ ครั้งที่จะใช้งาน เช่น ตู้บ่มเพาะเชื้อ เครื่องนึ่งฆ่าเชื้ออัตโนมัติ เป็นต้น
2. พัดลมติดเพดาน / เครื่องปรับอากาศ
โรงเรียนที่มีการใช้เครื่องปรับอากาศก็ต้องระวังให้ดี ยิ่งถ้าเป็นเครื่องปรับอากาศตั้งพื้นที่นักเรียนสามารถสัมผัสได้ หากเกิดไฟรั่วจะเป็นอันตรายอย่างมาก โรงเรียนไหนที่เน้นการใช้พัดลมก็ใช่ว่าไม่ต้องระวัง เพราะการที่พัดลมทำงานอยู่ตลอดเวลาติดต่อกันหลายวัน ทำให้ควรใช้แบบมีฝาครอบ รวมไปถึงหมั่นตรวจสภาพอยู่เป็นประจำ
3. ปลั๊กไฟ
ปลั๊กไฟส่วนใหญ่ในห้องเรียนจะอยู่บริเวณหน้าห้องและหลังห้อง มีจำนวนไม่มากนัก ทำให้ความต้องการใช้งานกับทรัพยากรที่มีสวนทางกัน ทำให้อาจมีการใช้ปลั๊กพ่วงเป็นทอด ๆ และส่งผลกระทบได้ เช่น เหตุการณ์สมมติในตอนต้น
4. หลอดไฟ
เพื่อความประหยัดควรหันมาใช้หลอดไฟ LED ที่ให้ความร้อนน้อย อายุการใช้งานที่ยาวนานและไม่มีสารเคมี เช่น ปรอทและอาร์กอน
5. คอมพิวเตอร์
โรงเรียนไหนที่มีห้องคอมพิวเตอร์ก็ห้ามชะล่าใจ เพราะถือว่าเป็นห้องที่เป็นศูนย์รวมของเครื่องใช้ไฟฟ้า ไม่ว่าจะเครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องปรับอากาศ หรือเครื่องฉายโปรเจคเตอร์ ถ้าไม่ติดตั้งสายดินก็สามารถเป็นอันตรายได้ ควรหมั่นตรวจสอบเป็นประจำ
หวังเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนจะใช้ไฟฟ้าอย่างระมัดระวังทั้งคุณครูและเด็ก ๆ ทั่วไทย
ด้วยความห่วงใยจาก เซฟไทย