• 6 Views
  • Sep 09, 2025
  • 35 mins read

รู้จัก SCADA นวัตกรรมเพื่อไฟฟ้ามั่นคงและปลอดภัยของ PEA

ท่ามกลางความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การดูแลให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง ปลอดภัย และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็นภารกิจสำคัญของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) และเพื่อให้ภารกิจนี้บรรลุผล PEA จึงได้นำเทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างระบบ SCADA มาใช้เป็นหัวใจหลักในการควบคุมและตรวจสอบโครงข่ายไฟฟ้าแบบเรียลไทม์ รองรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานอย่างยั่งยืนในระยะยาว

SCADA

SCADA คืออะไร?

SCADA ย่อมาจาก Supervisory Control and Data Acquisition คือระบบควบคุมและประเมินผลแบบศูนย์รวมที่นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ร่วมกับระบบสื่อสาร เพื่อควบคุม ตรวจสอบ และจัดการกระบวนการต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในระบบที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อน เช่น ระบบไฟฟ้า

ระบบ SCADA มีศูนย์ควบคุม (Control Center) ทำหน้าที่เป็น ‘สมองกล’ ของการสั่งการ โดยจะเชื่อมต่อกับสถานีย่อยหรืออุปกรณ์ภาคสนามผ่านโครงสร้างแบบ Master-Slave กล่าวคือ ศูนย์ควบคุมสามารถส่งคำสั่ง ควบคุม และรับข้อมูลกลับจากอุปกรณ์ลูกข่ายได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถติดตามสถานะของระบบและตัดสินใจดำเนินการได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และปลอดภัย

การใช้ SCADA ในการบริหารโครงข่ายไฟฟ้าของ PEA

การใช้ SCADA ในการบริหารโครงข่ายไฟฟ้าของ PEA

เพื่อให้การจ่ายไฟฟ้ามีความมั่นคง ปลอดภัย และตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างทันท่วงที PEA จึงได้นำระบบ SCADA มาใช้ในการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าแบบครบวงจร โดยเฉพาะการควบคุมและตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภาคสนามจากระยะไกล ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบจำหน่ายไฟฟ้าสมัยใหม่ โดยระบบ SCADA ของ PEA ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก ได้แก่

  • RTU (Remote Terminal Unit) หรือ FRTU (Feeder Remote Terminal Unit) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ควบคุมระยะไกลติดตั้งตามสถานีไฟฟ้าย่อยและจุดสำคัญในระบบ
  • เซิร์ฟเวอร์ SCADA (SCADA Server) ที่ตั้งอยู่ในศูนย์ควบคุมของ PEA เชื่อมต่อกับ RTU/FRTU ผ่านโครงข่ายสื่อสารหลากหลาย เช่น Fiber Optic, eLTE, Microwaveเป็นต้น
  • ระบบสื่อสารที่ใช้เทคโนโลยี GPRS/3G/4G, Microwave และ Optical Fiber เพื่อการส่งข้อมูลและสั่งการ
  • ซอฟต์แวร์ SCADA HMI (Human Machine Interface) ที่เป็นอินเทอร์เฟซสำหรับเจ้าหน้าที่ในการดูสถานะและสั่งเปิด-ปิดไฟฟ้าได้จากระยะไกล

วิธีการควบคุมและตัดไฟผ่าน SCADA

วิธีการควบคุมและตัดไฟผ่าน SCADA

PEA ใช้ SCADA ในการควบคุมการจ่ายไฟและตัดไฟผ่านอุปกรณ์สำคัญต่าง ๆ ได้แก่

  • Recloser อุปกรณ์ป้องกัน ที่สามารถเปิด-ปิดวงจรไฟฟ้าแบบอัตโนมัติ ช่วยให้สามารถลดผลกระทบจากไฟฟ้าดับเป็นเวลานาน
  • Load Break Switch (LBS) สวิตช์ที่สามารถสั่งเปิด-ปิดระยะไกล ใช้ในการแยกวงจรเพื่อบำรุงรักษาหรือแก้ปัญหาเฉพาะจุด
  • Circuit Breaker (CB) ในสถานีไฟฟ้าย่อย ใช้ควบคุมวงจรในระดับใหญ่ เช่น การตัดไฟทั้งตำบลหรืออำเภอ เมื่อเกิดกรณีฉุกเฉิน

โดยขั้นตอนการทำงานของระบบ SCADA ในการควบคุมไฟฟ้าจากศูนย์ควบคุม มีดังนี้

  1. เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานะระบบผ่าน SCADA HMI
  2. เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการควบคุม เช่น Recloser, LBS หรือ CB
  3. ส่งคำสั่งตัดไฟจากศูนย์ควบคุม
  4. RTU/FRTU รับคำสั่งและดำเนินการตัดไฟ
  5. ระบบอัปเดตสถานะกลับมายังหน้าจอแบบเรียลไทม์

ตัวอย่างการใช้งานจริงของ SCADA ใน PEA

ตัวอย่างการใช้งานจริงของ SCADA ใน PEA

  • กรณีฉุกเฉิน เช่น ไฟฟ้าลัดวงจรหรือเสาไฟฟ้าล้ม ระบบ SCADA ช่วยให้ PEA สามารถตัดไฟเฉพาะจุดได้ทันทีจากศูนย์ควบคุม ลดผลกระทบและเพิ่มความปลอดภัยให้กับประชาชน
  • ควบคุมโหลดไฟฟ้าในช่วงที่มีการใช้พลังงานสูงในบางพื้นที่ เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบ
  • วางแผนการบำรุงรักษาได้อย่างแม่นยำ พร้อมลดขอบเขตของพื้นที่ไฟดับในระหว่างการทำงาน
  • รองรับโครงการระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) และเตรียมความพร้อมสู่การเป็น Distribution System Operator (DSO) ในอนาคต

ประโยชน์ของ SCADA

ประโยชน์ของ SCADA

การนำ SCADA มาใช้ในการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าของ PEA ส่งผลให้เกิดประโยชน์หลายด้าน ได้แก่

  • ลดระยะเวลาในการแก้ไขไฟฟ้าดับ

ระบบ SCADA ช่วยตรวจจับปัญหาได้แบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถวิเคราะห์และจัดการกับจุดที่เกิดปัญหาได้ทันที ลดช่วงเวลาที่ผู้ใช้งานต้องรอการซ่อมแซมไฟฟ้า

  • สามารถตัดไฟเป็นโซนหรือเฉพาะจุดได้อย่างแม่นยำ

ระบบ SCADA ช่วยแยกพื้นที่การจ่ายไฟอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่จำเป็นต้องดับไฟทั้งสายเมื่อเกิดปัญหา ทำให้ผลกระทบต่อผู้ใช้งานน้อยลง และสามารถควบคุมพื้นที่ได้ตรงจุดมากขึ้น

  • ลดความจำเป็นในการส่งเจ้าหน้าที่ไปตัดไฟด้วยตนเอง

ในอดีตการตัดไฟจำเป็นต้องใช้บุคลากรลงพื้นที่ แต่ด้วยระบบ SCADA เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมการตัดไฟจากศูนย์ควบคุมได้ทันที เพิ่มความปลอดภัยและลดภาระของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ห่างไกลหรือมีความเสี่ยง

  • รองรับการควบคุมและวิเคราะห์ปัญหาระบบไฟฟ้าจากระยะไกล

ระบบ SCADA นี้สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์และเซนเซอร์ทั่วประเทศ ทำให้การตรวจสอบ วิเคราะห์ และสั่งงานสามารถทำได้จากระยะไกล ตลอด 24 ชั่วโมง

  • เพิ่มความมั่นคงของระบบจ่ายไฟ พร้อมรองรับพลังงานทดแทน

SCADA ช่วยให้การควบคุมระบบจ่ายไฟมีความมั่นคงมากขึ้น ลดพื้นที่และระยะเวลาไฟดับ พร้อมทั้งรองรับการจ่ายไฟจากแหล่งพลังงานทดแทนรูปแบบต่าง ๆ ที่เข้ามาในระบบจำหน่ายได้อย่างมีเสถียรภาพ

  • ปูทางสู่การเป็นองค์กรดิจิทัล (PEA Digital Utility)

ด้วยการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ให้รองรับเครือข่าย IP ทั้งระบบ ทำให้ SCADA ทำงานร่วมกับศูนย์สั่งการจ่ายไฟได้อย่างคล่องตัว มีความเสถียรในการควบคุมสูง รองรับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ

 

เบื้องหลังไฟฟ้าที่เราใช้อยู่ทุกวัน มี SCADA คอยดูแลแบบเรียลไทม์ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น PEA ก็พร้อมดูแลระบบไฟให้ทำงานได้อย่างไม่สะดุด

 

ที่มา:
https://www.pea.co.th/about-pea/sgi/monitoring-and-control
https://precise.co.th/news-and-articles/pea-และ-บริษัท-พรีไซซ-ซิสเท็/
https://gsbooks.gs.kku.ac.th/55/cdgrc13/files/pmo1.pdf
https://www.facebook.com/100076361208829/posts/การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค-ดับไฟทั้ง-5-จุด-จาก-กทม-ได้อย่างไร-ระบบ-scada-supervisory-co/659607739927927/

TAG