ในประเทศไทยที่อากาศร้อนแรงแทบตลอดทั้งปี แค่เปิดประตูบ้านก็สัมผัสได้ถึงไอร้อนที่พักโถมเข้ามามากกว่าลมเย็นเสียอีก หลายบ้านจึงเลือกเปิดแอร์ตลอดทั้งวันเพื่อความสบาย แต่สิ่งที่ตามมาคือ ค่าไฟที่พุ่งสูงจนใจหาย ขณะที่เราต่างพยายามหาวิธีประหยัดพลังงาน ทั้งเปลี่ยนเป็นหลอดไฟ LED ปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม หรือเลือกใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 แต่รู้ไหมว่าอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยทำให้บ้านเย็นลงอย่างเห็นผล และยังช่วยลดการใช้พลังงานได้แบบลงทุนครั้งเดียวคุ้มไปยาว ๆ ก็คือ ‘การใช้สีกันความร้อน’

สีประเภทนี้ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม แต่ยังช่วยสะท้อนรังสีความร้อน ลดการดูดความร้อนของผนัง ทำให้บ้านไม่เก็บความร้อนเอาไว้ทั้งวัน ผลลัพธ์คืออากาศภายในบ้านเย็นลงแบบสัมผัสได้จริง เครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนัก ช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างเห็นได้ชัด
ทำไมสีกันความร้อนถึงลดอุณหภูมิบ้านได้

หลายคนอาจสงสัยว่าการทาสีกันความร้อนเพียงอย่างเดียวจะช่วยลดความร้อนได้จริงหรือ คำตอบคือ จริงและมีประสิทธิภาพมากกว่าที่คิด
เหตุผลสำคัญคือ สีกันความร้อนมีส่วนผสมพิเศษที่ช่วยสะท้อนรังสีความร้อน ไม่ว่าจะเป็นรังสี UV หรือรังสีอินฟราเรดจากแสงแดดที่สาดส่องลงมาบนผนังบ้าน เมื่อผนังสะท้อนความร้อนออกไปแทนที่จะดูดซับเข้าสู่ตัวบ้าน ผนังก็จะไม่สะสมความร้อนไว้ทั้งวัน ทำให้ภายในบ้านเย็นลง ต่างจากการทาสีทาบ้านแบบธรรมดา ที่จะค่อย ๆ ดูดซึมความร้อนเข้าไปในผนังในช่วงแดดจัด แล้วคายความร้อนออกมาช้า ๆ ทำให้บ้านยังร้อนอบอ้าวแม้จะเป็นช่วงเย็นแล้ว เมื่อบ้านเย็นขึ้น เครื่องปรับอากาศก็ใช้พลังงานน้อยลง ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าลดลงและประหยัดพลังงานในระยะยาว
เลือกโทนสีกันความร้อนอย่างไรให้บ้านเย็นขึ้น

นอกจากคุณสมบัติของสีกันความร้อนแล้ว การเลือกโทนสีก็มีผลอย่างมากต่ออุณหภูมิในบ้านเช่นกัน โดยสีโทนอ่อนจะมีค่าความสว่างสูง ช่วยสะท้อนแสงได้ดี ทำให้ใช้แสงสว่างจากหลอดไฟน้อยลงในช่วงกลางวัน และไม่ดูดความร้อน จึงช่วยประหยัดไฟทั้งด้านแสงสว่างและการใช้เครื่องปรับอากาศไปพร้อมกัน ถือเป็นวิธีลดความร้อนที่ได้ทั้งความสวยงามและความคุ้มค่าพลังงาน ทั้งนี้ โทนสียอดยอดนิยมที่ทั้งสวยและช่วยให้บ้านเย็นขึ้น เช่น
- โทนสีเหลืองครีม ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับห้องนั่งเล่นหรือห้องครัว
- โทนสีเขียวอ่อน ให้ความรู้สึกเย็นสบาย ร่มรื่น ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายตา เหมาะกับห้องนอนและห้องนั่งเล่น
- โทนสีฟ้า ให้ความสงบ โปร่งโล่ง สบายตา เหมาะกับห้องทำงาน ห้องนอน และห้องน้ำ
- โทนสีชมพู-ม่วงอ่อน ให้บรรยากาศอ่อนหวาน นุ่มนวล เหมาะกับห้องนั่งเล่นหรือห้องทานอาหาร
- โทนสีขาว-เทาอ่อน เป็นสีคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกโปร่งสะอาดตา จึงเหมาะกับการใช้งานทุกห้อง
หากบ้านไหนไม่ต้องการให้ทุกอย่างเป็นสีอ่อน ก็สามารถใช้เฟอร์นิเจอร์สีเข้มหรือของตกแต่งมาเพิ่มความโดดเด่น โดยไม่ทำให้ห้องร้อนขึ้นได้
ทริกง่าย ๆ ใช้สีกันความร้อนให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
แม้ว่าสีกันความร้อนจะช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านได้เป็นอย่างดี แต่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด การใช้งานอย่างถูกวิธีก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน
1. ทาหลังคาด้วยสีกันความร้อน

หลายคนอาจมองข้ามจุดนี้ แต่ในความจริงหลังคาเป็นส่วนที่รับแสงแดดมากที่สุด หากบริเวณหลังคาสะท้อนความร้อนได้ดี อุณหภูมิภายในบ้านจะลดลงมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบ้านที่มีชั้นบนหรือห้องใต้หลังคา
การทาสีหลังคาที่ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนจึงเป็นก้าวแรกที่เห็นผลเร็ว และช่วยลดการสะสมความร้อนที่ลงมาถึงตัวบ้านได้เป็นอย่างดี
2. เตรียมพื้นผิวให้เหมาะสมก่อนทาสีกันความร้อน

ไม่ว่าคุณจะใช้สีคุณภาพดีแค่ไหน หากพื้นผิวไม่สะอาด สีจะไม่สามารถยึดเกาะหรือทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องขัดหรือลอกสีเก่าที่เสื่อมสภาพออกก่อน จากนั้นทำความสะอาดฝุ่น คราบสกปรก เชื้อรา และตะไคร่น้ำ รวมถึงซ่อมแซมรอยแตกร้าวให้เรียบร้อยก่อนทาสีกันความร้อน
เมื่อฐานผนังดี สีจะยึดเกาะได้แน่น และช่วยสะท้อนความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อเนื่องในระยะยาว
3. ใช้สีรองพื้นเพื่อเสริมประสิทธิภาพสีกันความร้อน

สีทางรองพื้นอาจเป็นสิ่งที่หลายคนมองว่าไม่จำเป็น แต่แท้จริงแล้วสีรองพื้นมีผลต่อการลดความร้อนเป็นอย่างมาก เพราะช่วยปกป้องพื้นผิว ลดการเกิดปัญหาสีลอก และยังเสริมความสามารถของสีกันความร้อนให้ทำงานได้ดีขึ้นอีกด้วย หากใช้สีรองพื้นที่มีส่วนผสมช่วยสะท้อนความร้อน ก็จะช่วยทำให้บ้านเย็นขึ้นได้อีกระดับ
4. เลือกใช้สีกันความร้อนที่มีเทคโนโลยีสะท้อนรังสี

ปัจจุบันตามท้องตลาดมีสีกันความร้อนหลายรุ่นที่มีส่วนผสมช่วยสะท้อนรังสี UV และรังสีความร้อน ทำให้ความร้อนจากภายนอกถูกสะท้อนออกไปทันทีก่อนจะส่งผ่านเข้าภายในบ้าน ไม่สะสมอยู่ในผนัง ช่วยให้บ้านเย็น ลดภาระของเครื่องปรับอากาศ และช่วยประหยัดค่าไฟได้มากกว่าเดิม
บางรุ่นอาจระบุว่าช่วยลดอุณหภูมิบ้านได้หลายองศา หรือช่วยลดค่าไฟได้ในสัดส่วนหนึ่งต่อปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปแบบบ้าน การทาสีครบระบบ และพฤติกรรมการใช้พลังงานภายในบ้าน
ถ้าบ้านเริ่มร้อนขึ้น แอร์เริ่มไม่ค่อยสู้ การเริ่มจากการทาสีกันความร้อน นับเป็นก้าวแรกที่ง่ายที่สุดในการช่วยคลายร้อนให้บ้านทั้งหลังได้แบบไม่ต้องลงทุนสูง
ที่มา:
https://www.deltapaint.co.th/สีทาบ้านประหยัดพลังงาน/
https://www.beger.co.th/th/blog/cool-paint-save-energy
https://www.toagroup.com/th/blogs/toa-tips-how-to/195/heat-resistant-paint-for-house