เหตุการณ์สมมติ
นางสาว บี : นี่ เอ เสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนทิ้งไว้แบบนั้นจะไม่เป็นไรใช่ไหม?
นาย เอ : ไม่หรอกมั้ง ฉันทำแบบนี้ตลอดเพราะไม่ชอบมานั่งรอน้ำเดือดน่ะ
นางสาว บี : แล้วแบบนี้จะไม่เปลืองไฟเหรอ เสียบไว้ตลอดเวลา
นาย เอ : นั่นสิ ลืมนึกไปเลย
จากเหตุการณ์สมมติข้างต้น มีเพื่อน ๆ คนไหนมีพฤติกรรมการใช้กระติกน้ำร้อนแบบนาย เอ บ้างไหมครับ?
เซฟไทยเข้าใจดีว่าการที่อยากดื่มอะไรร้อน ๆ แล้วได้ดื่มเลยนั้นทันใจกว่าจะมารอน้ำเดือด ยิ่งดื่มน้ำเยอะแค่ไหนก็ยิ่งใช้เวลาเดือดนานขึ้นเท่านั้น
แต่เพื่อน ๆ ทราบไหมครับว่าการเสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนไว้ตลอดเวลานั้นก็เป็นการเปลืองไฟอีกแบบหนึ่ง เพราะเท่ากับว่าได้ปล่อยให้มีกระแสไฟฟ้าไหลอยู่ตลอดเวลานั่นเอง
รู้แบบนี้แล้ว เพื่อน ๆ หลายคนคงอยากทราบวิธีการใช้กระติกน้ำร้อนแบบประหยัดไฟแล้วแน่เลย
เซฟไทยจะมาบอกให้เอง!
1. ถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน
วิธีที่ง่ายที่สุดคือการถอดปลั๊กเมื่อไม่ใช้งาน เซฟไทยเข้าใจดีว่าเพื่อน ๆ ก็อยากได้น้ำอุ่นที่ทันใจ แต่หากลองชั่งน้ำหนักดูแล้ว การรอคอยน้ำเดือดสักนิด น่าจะดีกว่าต้องจ่ายค่าไฟที่พุ่งสูงในสิ้นเดือนนะครับ
2. ใช้น้ำอุณหภูมิห้องในการต้ม
ให้ลองนึกถึงการนำของร้อนจัดไปแช่ตู้เย็น เช่นเดียวกันกับการนำน้ำเย็นมาต้มให้เดือด เพราะเท่ากับว่ากระติกน้ำร้อนต้องทำงานหนักขึ้น
3. ดื่มแค่ไหน ต้มแค่นั้น
การต้มน้ำในปริมาณมาก นอกจากจะใช้เวลาในการต้มที่นานขึ้นแล้ว ยังทำให้เปลืองไฟโดยใช่เหตุด้วย เพราะสุดท้ายน้ำที่เหลือไว้ในกระติกก็จะเย็นตัวลงทำให้ต้องมาต้มอีกครั้งนั่นเอง
4. เลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีฉลากเบอร์ 5
แต่ละคนก็คงใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าคนละรุ่น คนละยี่ห้อกัน ที่แตกต่างกันทั้ง สี ขนาด รูปทรง หรือแม้แต่ราคา แต่สิ่งหนึ่งที่เพื่อน ๆ ควรคำนึงถึงเวลาเลือกซื้อกระติกน้ำร้อน นั่นก็คือฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 ที่จะช่วยทำให้มั่นใจได้ว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพื่อน ๆ ใช้อยู่นั้นประหยัดไฟ
อ่านมาถึงตรงนี้ เพื่อน ๆ คนไหนที่เสียบปลั๊กกระติกน้ำร้อนทิ้งไว้ ก็อย่าลืมไปถอดออกนะครับ
และตอนถอดก็อย่าลืมจับหัวปลั๊กแทนที่จะดึงสาย เพื่อป้องกันสายไฟขาดข้างในนะครับ
ด้วยความปรารถนาดีจาก เซฟไทย