ถึงแม้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้นำเอาสายไฟฟ้าลงใต้ดิน บางส่วนแล้ว แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ายังมีอีกหลายแห่งที่ยังมีสายไฟฟ้าอยู่ พอเข้าฤดูฝนที่มีพายุบ้าง ฟ้าผ่าบ้าง ก็อาจทำให้กิ่งไม้บริเวณโดยใกล้โอนเอนจนไปพาดกับแนวสายไฟได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้คนโดยรอบเป็นอย่างมาก
ทำไมถึงต้องรอเจ้าหน้าที่? จัดการเอาออกเองเลยได้ไหม?
ถึงแม้ว่าสายไฟจะอยู่สูงแค่ไหน แต่ก็มีกรณีที่ผู้คนคิดว่าสามารถเอากิ่งไม้ที่มาพาดแนวสายไฟออกเองได้อยู่ เช่น อาคารพาณิชย์ที่อาศัยอยู่มีสายไฟอยู่ใกล้ระเบียง ทำให้สามารถเอื้อมไปจับกิ่งไม้ได้อย่างง่าย แต่ไม่ควรที่จะจัดการด้วยตนเองถึงแม้ว่าจะดูเป็นไปได้แค่ไหน เพราะถ้าไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่มีคุณภาพและประสบการณ์ในการรับมือ ก็สามารถทำให้เสี่ยงที่จะได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้าแรงสูงได้ เพราะบนเสาไฟฟ้าไม่ได้มีแค่สายไฟฟ้าเท่านั้น ดังนั้นจึงควรแจ้งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการให้เพื่อความปลอดภัยดีกว่า
ไม่ใช่แค่กิ่งไม้ แต่วัตถุอื่น ๆ ก็ด้วย
นอกจากสาเหตุจากธรรมชาติอย่างกิ่งไม้แล้ว ก็ยังมีสาเหตุจากสิ่งมีชีวิตอย่างสัตว์ด้วย เช่น การทำรังของสัตว์ปีก ซึ่งต่อให้เป็นกังวลแค่ไหนก็ไม่ควรผลีผลามไปช่วยนะครับ
เหตุการณ์สมมติ
นาย เอ อาศัยอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่ง วันหนึ่งนาย เอ เห็นว่ากิ่งไม้ เริ่มเอนผ่านสายไฟเข้้ามาใกล้ระเบียงห้อง ด้วยความใจร้อน นาย เอ จึงรีบไปซื้อเครื่องมือตัดแต่งกิ่งไม้มาตัดเอง สุดท้ายนาย เอ ได้รับบาดเจ็บจากกระแสไฟจากสายไฟฟ้า
นางสาว บี กำลังเดินกลับบ้าน ระหว่างทางก็ได้เห็นว่ามีรังนกอยู่บริเวณหม้อแปลงใกล้เสาไฟฟ้า ด้วยความเป็นกังวลและใจร้อน นางสาวบี จึงโทรเรียกให้เพื่อนของตนนำเอาบันไดมาให้ เพื่อที่จะปีนขึ้นไปช่วยเหลือนก สุดท้ายนางสาว บี ได้รับบาดเจ็บจากกระแสไฟจากสายไฟฟ้า
สองเหตุการณ์ข้างต้นแสดงถึงเหตุผลที่ว่าถ้าพบเห็นปัญหาเกี่ยวกับสายไฟ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ชำนาญการ เพราะหากเข้าไปจัดการด้วยตนเองก้อาจได้รับบาดเจ็บเหมือนนาย เอ และ นางสาว บี ได้
หากพบเห็นสายไฟชำรุดให้รีบแจ้ง PEA Contact Center โทร. 1129