• 61 Views
  • Nov 28, 2024
  • 9 mins read

เลือกโคมไฟสักอัน ต้องรู้อะไรบ้าง

เจอเข้ากับตัวเองเลย เมื่อโคมไฟอ่านหนังสือจูงมือกันสู่ขิตในเวลาไล่เลี่ยกัน เดือดร้อนต้องจัดหาอันใหม่มาแทน เลยเพิ่งรู้ว่าการเลือกโคมไฟสักอันนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย  ยิ่งยุคดิจิทัลที่การช้อปออนไลน์แสนสะดวกเพียงปลายนิ้วคลิก นั่นยิ่งทำให้มีสารพัดโคมไฟพาเหรดมาให้เลือกมากมาย 

เซฟไทยรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับโคมไฟมาฝากกัน เพื่อให้การเลือกโคมไฟไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

4 สิ่งต้องรู้ก่อนเลือกโคมไฟ

  • ตอบโจทย์การใช้งาน

แม้โคมไฟมีหน้าที่หลักเป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่างเช่นเดียวกับหลอดไฟ แต่โคมไฟจะมีตัวโคมช่วยปกป้องหลอดไฟ และมีโครงฐานที่ใช้รองรับหรือติดตั้งโคมไฟแล้ว นอกจากนี้ โคมไฟยังมีฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลายกว่า จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์การใช้งานได้ตรงความต้องการมากขึ้น แต่ความที่โคมไฟมีมากมายหลายขนาด หลากวัสดุ และมากด้วยดีไซน์จนเลือกไม่ถูก ดังนั้น การรู้วัตถุประสงค์การใช้งานจะช่วยให้เราตัดสินใจเลือกโคมไฟได้ถูกต้องเหมาะสม

หากแบ่งโคมไฟตามการใช้งานจะแบ่งได้ 3 ประเภท ดังนี้

1. โคมไฟให้แสงสว่างทั่วไป เหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น โคมไฟเพดาน โคมไฟระย้า โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น 

2. โคมไฟสำหรับตกแต่งเสริมบรรยากาศ ด้วยดีไซน์ของโคมไฟจึงเป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์อย่างหนึ่ง เช่น โคมไฟห้อย โคมไฟผนัง โคมไฟประดับ

3. โคมไฟสำหรับใช้งานเฉพาะ เน้นการใช้งานที่เหมาะสมกับงานนั้น ๆ  เช่น โคมไฟอ่านหนังสือ โคมไฟตั้งโต๊ะทำงาน โคมไฟตั้งโต๊ะอาหาร 

  • ขนาดที่เหมาะสม

เมื่อเลือกโคมไฟได้ตรงกับความต้องการใช้งานแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาต่อไปก็คือขนาดของโคมไฟ ซึ่งต้องสัมพันธ์กับพื้นที่ที่จะนำไปติดตั้งหรือนำไปใช้งาน เพราะหากเลือกโคมไฟที่ขนาดเล็กเกินไป จะให้แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ แต่ถ้าเลือกโคมไฟใหญ่เกินไป นอกจากจะดูเกะกะรกตาแล้ว ยังเปลืองไฟโดยไม่จำเป็นด้วย

ด้วยเหตุนี้ การเลือกขนาดโคมไฟให้เหมาะสมจึงเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจ โดยเฉพาะถ้าเป็นโคมไฟแขวน จำเป็นต้องมีระยะการติดตั้งที่เหมาะสมกับขนาดห้อง เช่น หากเป็นห้องกว้างที่เพดานสูง แชนเดอเลียร์ทรงระย้าหรือโคมไฟแขวนจะช่วยส่งให้ห้องนี้โดดเด่นชวนมอง ตรงกันข้ามากเป็นห้องเพดานเตี้ย หรือห้องที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด ควรเลือกโคมไฟเพดานแบบฝังฝ้า หรือโคมไฟดาวน์ไลต์ จะช่วยลดความอึดอัดลงได้ ส่วนโคมไฟแบบตั้งพื้นควรให้ความสูงของโคมอยู่ประมาณระดับสายตาคนนั่งหรือต่ำกว่าเล็กน้อยเพื่อหลีกเลี่ยงแสงสะท้อน

หลังจากได้ขนาดโคมไฟที่เหมาะสมกับพื้นที่ห้องแล้ว  อย่าลืมคำนึงถึงระดับความสว่างของโคมไฟ โดยสามารถตรวจสอบได้จากข้อมูลจำเพาะของโคมไฟนั้น ๆ ซึ่งจำนวนและขนาดหลอดไฟจะได้รับการออกแบบให้สมดุลกับขนาดโคมไฟ เราจึงมีหน้าที่แค่เลือกขนาดโคมไฟให้เหมาะสมกับพื้นที่ห้องก็พอ

  • สไตล์ถูกใจใช่เลย

เชื่อว่าหลายคนเลือกโคมไฟโดยดูจากดีไซน์ที่ชอบหรือโดนใจก่อนเป็นอย่างแรก เพราะมองเป็นอุปกรณ์ในการตกแต่งห้องหรือตกแต่งสถานที่นั้น ๆ รวมถึงใช้ตกแต่งในโอกาสต่าง ๆ ยิ่งปัจจุบันโคมไฟนับเป็นหนึ่งนวัตกรรมที่มีการออกแบบรูปทรง สีสัน ขนาด และฟังก์ชันการทำงาน จึงเป็นเหมือนเฟอร์นิเจอร์ช่วยสร้างบรรยากาศให้ได้

ดังนั้น เมื่อคัดกรองโคมไฟที่ตรงกับความต้องการในการใช้งาน และทราบขนาดโคมไฟที่เหมาะสมแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการเลือกสไตล์ของโคมไฟจะโมเดิร์น มินิมัล คลาสสิก หรือหรูหรา ก็พิจารณาให้เข้ากับพื้นที่ที่จะนำไปใช้งาน แต่ก็ไม่ได้เป็นกฎเกณฑ์ตายตัวซะทีเดียวว่า สไตล์ของโคมไฟต้องไปแนวเดียวกับสไตล์การตกแต่งพื้นที่นั้น เพราะทฤษฎีการตกแต่งมีได้หลากหลาย บางคนอาจต้องการเล่นความแตกต่าง หรือต้องการสไตล์มิกซ์แอนด์แมตช์ ก็ได้เช่นกัน 

ฉะนั้น สำหรับสไตล์หรือรูปแบบโคมไฟจึงเปิดกว้างให้เราสามารถเลือกอันที่ถูกใจได้เต็มที่ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า ต้องตรงวัตถุประสงค์การใช้งาน และเป็นขนาดที่เหมาะสมแล้วด้วยนะ 

  • ราคาไปกันได้กับงบประมาณ

ความที่โคมไฟมีให้เลือกมากมาย พร้อมช่วงราคาที่หลากหลายตามไปด้วย การตั้งงบหรือกำหนดราคาคร่าว ๆ ไว้ในใจจะช่วยให้ค้นหาและคัดเลือกโคมไฟตัวที่ใช่ในราคาที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้ ความถูกแพงขึ้นอยู่กับองค์ประกอบการตัดสินใจของแต่ละคน ราคาเดียวกันแต่ต่างคนซื้อ ก็อาจจะนิยามความถูกแพงไม่เหมือนกัน ที่สำคัญของถูกไม่ใช่ตัวเลือกที่ควรยึดถือเสมอไป อย่าลืมว่า หากราคาถูกแต่ใช้งานได้ไม่เต็มที่ หรือแม้แค่ได้มาเพราะถูกแต่ยังไม่ถูกใจ ความรู้สึกไม่พึงใจนั้นก็อาจทำให้ของชิ้นนั้นกลายเป็นของแพงขึ้นมาได้

ยืดอายุ ‘โคมไฟ’ ต้องทำอย่างไร

หลังจากเลือกโคมไฟได้แล้ว การดูแลรักษาก็เป็นสิ่งจำเป็นต้องรู้ เพื่อให้ใช้งานโคมไฟได้ถูกต้อง คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายมา และยังช่วยให้เราใช้โคมไฟได้ยาว ๆ ซึ่งวิธีดูแลโคมไฟมีดังนี้

1. ใส่ใจการเลือกหลอดไฟที่ใช้กับโคมไฟ ด้วยการเลือกหลอดไฟ LED ซึ่งเป็นหลอดไฟที่ใช้พลังงานน้อย ให้ความสว่างสูง และไม่ปล่อยรังสี UV จึงให้พลังงานสะอาด ไม่แผ่รังสีความร้อน ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ มีอายุการใช้งานยาวนาน ทำให้ไม่ต้องยุ่งยากในการเปลี่ยนหลอดไฟบ่อย ๆ ยิ่งเป็นโคมไฟที่ใช้งานหนัก เช่น โคมไฟระเบียงบ้านที่ต้องเปิดให้แสงสว่างทั้งคืน หลอดไฟ LED จะเหมาะมาก อย่าลืมเลือกโทนสีจากแสงของหลอดไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วย เช่น แสงขาวนวลเหมาะสำหรับการอ่านหนังสือ จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานโคมไฟได้อีกทางหนึ่ง

2. คำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งานเสมอ เช่น หากเป็นโคมไฟตั้งพื้นก็ต้องดูว่า บริเวณนั้นจะไม่เสี่ยงกับการถูกชนหรือกีดขวางทางเดิน หรือถ้าเป็นแชนเดอเลียร์หรือโคมไฟแขวน ก็ต้องมั่นใจว่าติดตั้งแน่นหนา และหมั่นตรวจเช็กสภาพความแข็งแรงของโคมไฟอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น

3. หมั่นทำความสะอาดโคมไฟ ด้วยการใช้ผ้านุ่ม ๆ ชุบน้ำสะอาดผสมน้ำยาล้างจานเล็กน้อยเช็ดบริเวณโคมไฟให้ทั่ว อย่าลืมปิดสวิตช์หรือถอดปลั๊กโคมไฟก่อนด้วยล่ะ 

เพียงเท่านี้ โคมไฟที่คุณเลือกซื้อมาก็จะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป เพราะใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่และใช้งานได้ยาวนาน

 

ที่มา

https://www.starlight.co.th/blog/6574/บอกต่อเคล็ดลับ-เลือกโคมไฟสำหรับห้องต่าง-ๆ-ในบ้าน-สไตล์ไหนที่เป็นคุณ

https://www.lumencraftlighting.com/exploring-lamp-versatility-meet-expectations/

https://www.chicintouch.com/blog/เทคนิคการเลือกแบบโคมไฟ/7

https://blog.yaleappliance.com/5-things-to-consider-before-choosing-modernlighting

http://www.charlstonlights.com/blog/tips-on-planning-your-home-interior-with-led-lights