• 921 Views
  • Jun 27, 2023
  • 13 mins read

รู้จัก ‘ไฟ RGB’ พร้อมประโยชน์ของไฟหลากสี ที่เติมสีสันให้ทุกการใช้งาน

ปัจจุบัน ‘ไฟ RGB’ ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายด้วยคุณสมบัติที่สามารถเปลี่ยนสีของแสงได้หลากหลายตามใจต้องการ หลายคนจึงมักนำไฟประเภทนี้มาใช้ตกแต่งบ้านหรือสถานที่ต่าง ๆ เพื่อยกระดับความสวยงามและแต่งแต้มบรรยากาศให้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น วันนี้เซฟไทยจึงจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกันว่าแท้จริงแล้วไฟ RGB คืออะไร พร้อมทั้งเผยวิธีการใช้งานอย่างเหมาะสม

ไฟ RGB คืออะไร?

ไฟ RGB คืออะไร

RGB คือระบบสีของแสงที่เกิดจากการหักเหของแม่สีทั้ง 3 สี ได้แก่ สีแดง (Red) สีเขียว (Green) และสีน้ำเงิน (Blue) จึงเป็นที่มาของชื่อ ‘ไฟ RGB’ นั่นเอง หากแสงทั้ง 3 สีมีปริมาณความสว่างเท่ากันจะแสดงผลลัพธ์ออกมาเป็นแสงสีขาว แต่เมื่อปริมาณแสงสว่างของ 3 สีมีระดับแตกต่างกันจะทำให้เกิดแสงที่มีสีต่างกันได้มากกว่า 16 ล้านสี โดยตัวอย่างการผสมสีหลักจะได้ผลลัพธ์ ดังนี้

สีแดง + สีเขียว = สีเหลือง

สีเขียว + สีน้ำเงิน = สีฟ้า

สีแดง + สีน้ำเงิน = สีแดงอมชมพู

ประโยชน์ของไฟ RGB ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

ประโยชน์ของไฟ RGB ใช้ทำอะไรได้บ้าง?

ความหลากหลายของไฟ RGB เป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้เราเลือกใช้ประโยชน์จากไฟประเภทนี้ได้อย่างเหมาะสมต่อความต้องการ เช่น

  • ใช้สำหรับตกแต่งห้องต่าง ๆ ภายในบ้านให้มีสีสันหรือปรับแสงของสีให้เหมาะสมต่อแต่ละห้อง
  • แต่งเติมสีสันให้กับโต๊ะทำงานที่มีคอมพิวเตอร์ เช่น ลำโพง คีย์บอร์ด เก้าอี้ เป็นต้น
  • ไฟ RGB เหมาะกับการตกแต่งงานปาร์ตี้หรือเทศกาลต่าง ๆ เพื่อให้มีความวิบวับ และสร้างความสนุกสนานผ่านแสงไฟ
  • ใช้ในการแสดงผลของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เช่น จอภาพ, สแกนเนอร์, กล้องดิจิทัล หรืองานออกแบบเว็บไซต์

ประเภทของไฟ RGB

ประเภทของไฟ RGB

ไฟ RGB มีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้ ซึ่งไฟแต่ละประเภทมีข้อดีเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป โดยสามารถแบ่งประเภทไฟ RGB ได้ดังนี้

  • ไฟ RGB ชนิดแถบไฟ LED RGB (Strip LEDs)

แถบไฟ LED RGB เป็นไฟ RGB ที่ได้รับความนิยมสูงสุด และมักนำมาใช้ตกแต่งเฉพาะจุด เนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูง และใช้งานได้ง่ายเพียงตัดแถบ LED บาง ๆ ตามขนาดและรูปร่างที่ต้องการ จากนั้นนำไปติดในบริเวณที่ต้องการเพิ่มความสว่าง เช่น ตู้ เคาน์เตอร์ บันได ห้องนั่งเล่น มุมเล่นเกม เป็นต้น

  • ไฟ RGB แบบติดตั้ง

ไฟ RGB ชนิดนี้มักจะติดตั้งไว้ที่ผนังหรือเพดาน สามารถปรับองศาไปยังมุมที่ต้องการเน้นแสงได้ โดยไฟ RGB แบบติดตั้งที่ได้รับความนิยมมาก คือ ไฟสปอตไลต์ที่เหมาะกับการเน้นวัตถุเฉพาะจุด และไฟฟลัดไลต์ที่เหมาะกับการให้แสงสว่างเป็นวงกว้างจากระยะไกล

  • ไฟพ็อด RGB LED

ไฟพ็อด RGB LED เป็นไฟ RGB อีกประเภทที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีขาตั้งปรับยืดได้ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน และมีขนาดใหญ่กว่าไฟแถบ LED จึงเหมาะกับการใช้แสงพื้นที่ใหญ่

  • หลอดไฟ RGB

การติดตั้งหลอดไฟ RGB ที่สามารถปรับเปลี่ยนสีได้เข้ากับตัวควบคุมแทนการใช้หลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์ จะช่วยให้สร้างบรรยากาศที่ต้องการได้ด้วยสีสันต่าง ๆ

ข้อดีของไฟ RGB

ข้อดีของไฟ RGB

  • ปรับแต่งสีได้อย่างหลากหลายไร้ขีดจำกัด

เนื่องจากคุณสมบัติในการเปลี่ยนสีได้กว่า 16 ล้านสี จากแม่สีของแสงเพียง 3 สี ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนแสงไฟ RGB ในบรรยากาศต่าง ๆ ได้ตามต้องการ

  • ช่วยสร้างบรรยากาศและผ่อนคลายอารมณ์

งานวิจัยเผยว่าแสงแต่ละสีส่งผลให้เกิดอารมณ์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น แสงสีเขียวจะช่วยลดความตึงเครียดได้ ในขณะที่แสงสีชมพูจะช่วยสร้างบรรยากาศที่สัมผัสได้ถึงความรัก ดังนั้นไฟ RGB จึงเป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับกิจกรรมที่จำเป็นต้องใช้แสงในการสร้างบรรยากาศที่หลากหลาย เช่น การจัดไฟเวที การจัดแสดงสินค้า การถ่ายภาพ เป็นต้น

  • กระจายความร้อนได้ดี

ไฟ RGB สามารถทำงานได้ในสภาพอากาศ 20 – 40 องศาเซลเซียส เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการกระจายความร้อนสูง จึงช่วยยืดอายุการใช้งานได้เป็นอย่างดี

สิ่งที่ควรคำนึงก่อนเลือกซื้อไฟ RGB

สิ่งที่ควรคำนึงก่อนเลือกซื้อไฟ RGB

  • คุณภาพ

สิ่งสำคัญในการซื้อไฟ RGB คือ ควรเลือกผลิตภัณฑ์จากผู้ผลิตที่น่าเชื่อถือ และได้รับการรับรองมาตรฐานว่าผ่านการทดสอบ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีชิ้นส่วนประกอบที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงสุด

  • ขนาดและรูปทรง

ก่อนตัดสินใจซื้อไฟ RGB ควรสำรวจพื้นที่ ระยะห่างของปลั๊กไฟ และความต้องการใช้ เพื่อที่จะเลือกขนาดของไฟได้อย่างเหมาะสมกับการใช้งาน และสร้างความสวยงามเข้ากับบรรยากาศได้เป็นอย่างดี

  • ประสิทธิภาพในการประหยัดไฟ

การใช้ไฟ RGB ที่เหมาะสมกับกำลังไฟและมีการรับรองประสิทธิภาพประหยัดพลังงานจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว

  • การรับประกัน

อุปกรณ์ตามท้องตลาดที่ไม่มีการรับประกันอาจมีความเสี่ยงอันตรายจากไฟฟ้าได้ เช่น ไฟรั่ว ไฟลัดวงจร การลุกไหม้ และอื่น ๆ เนื่องจากใช้วัสดุคุณภาพต่ำในการผลิต ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการรับประกันจากทางผู้ผลิต ซึ่งโดยทั่วไปมักจะมีระยะเวลาการรับประกันประมาณ 1 ปี

 

หลังจากได้ทำความรู้จักกับไฟเปลี่ยนสีอย่างไฟ RGB กันไปแล้ว เซฟไทยหวังว่าทุกคนจะสามารถเลือกใช้ไฟ RGB ได้อย่างถูกวิธีและตรงตามความต้องการ พร้อมสร้างสีสันให้กับบ้านแบบไร้ขีดจำกัด ผ่านการแต่งแต้มความคิดสร้างสรรค์ที่จะไม่ทำให้พื้นที่ของคุณน่าเบื่ออีกต่อไป

ที่มา: changfi

uprintershop

businesstoday

onforuleds

ledyilighting